Youtube SEO

http://www.youtube.com/watch?v=55K7BAfh4fc

สมาชิก
นางสาวลัดดาวัลย์  เสนแก้ว 2551051541306
นางสาวปนัดดา  โอชู 2551051541307
นางสาวฐานิศา  ผุสดี 2551051541321
นายรวิภาส นิลประดับ 2551051541327
นายอานนท์  ทับทิม 2551051541333

เปรียบเทียบค่า Page Rank ของ Web E - Business

www.lenovo.com
     ตัวอย่างภาพแสดงค่า PR ที่มีค่าสูง

     จากการสำรวจ พบว่ามีค่า PR = 5 และ ค่า I = 12,000  ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมพอสมควร


www.jib.co.th
     ตัวอย่างภาพแสดงค่า PR ที่มีค่าต่ำ

     จากการสำรวจ พบว่ามีค่า PR = 4 และ ค่า I = 6,110  ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมต่ำ

Online Business with Google

1.สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการรับฟัง ลงใน Web Blog ของ น.ศ.

SoLoMo So คือ Social เครือข่ายสังคม

 Lo หรือ Local การเข้าถึงธุรกิจหรือบริการสำหรับคนในท้องถิ่น

Mo หรือ Mobile เข้าถึงผู้ใช้งานมือถือ ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูล และมีการใช้ Google Plus เป็นเครื่องมือในการโฆษณาเว็บไซต์ และการใช้ SEO ในการทำให้เว็บติดอันดับ โดยมีวิธีการแต่ละขั้นตอนให้เราลงมือปฏิบัติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการทำพอสมควร ข้อดีคือ มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ไม่ต้องจ้างพนักงานเยอะ และสามารถสร้างกำไรให้ธุรกิจได้ โดยที่เครื่องมือที่เข้ามาช่วยเหลือในการทำการตลาดออนไลน์จาก Google ดังนี้

         1.Get your business online การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ คือการค้นจาก Google แล้วเจอ มีผลของการค้นหาที่เป็นหน้าเว็บไซต์ของเรา

         2.Be found –when customer is reading คือการถูกค้นหา การถูกค้นหา มี 2 ส่วน ที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่ามีตัวตน และผู้บริโภคจะพบเรา คือ Google ad words และ natural result ( ผลเสิร์จโดยปกติ )

         3.Be reached Show where you are คือ การปรากฏตัวบนแผนที่ ซึ่งแผนที่นี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคจะค้นหาสถานที่ต่างๆ จากแผนที่ออนไลน์  แผนที่ออนไลน์เดี๋ยวนี้มี Google map street view ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสถานที่เสมือนจริงได้เลย

        4.Get closer to your customer ต้องอาศัย Social media ซึ่งอาจจะเป็น Google + ของ Google ก็ได้ ซึ่งตอนนี้ Google+ มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาที่น่าสนใจคือ Google+ Hangouts ที่จะทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคสนทนากันแบบวีดีโอ สามารถดึงไฟล์เอกสารพร้อมกันได้ ดูคลิปพร้อมกันได้

        5.Increase your performance การวัดผลการทำการตลาด โดย Google ที่ชื่อว่า analytics.google.com ว่ามีผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณอย่างไร เป็นต้น

        6.Engage your customers : anywhere-anytime คือการค้นหาสินค้าและบริการทุกที่ ทุกเวลา จากสมาร์ทโฟน

        7.Go Global (AEC) การเข้าถึงได้ทั่วโลก ทำให้เราสามารถขายสินค้าได้ทั่วโลก โดยใช้ Google translate ช่วยในการแปลภาษาให้สามารถเข้าใจและสื่อสารกันได้ในระดับหนึ่ง

           2.หาคำศัพท์ที่ได้จากการรับฟังพร้อมหาความหมาย เพื่ออธิบายคำศัพท์ดังกล่าว อย่างน้อย 20 คำ แล้วสรุปใน Web Blog

         1.Get your business online การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ คือการค้นจาก Google แล้วเจอ มีผลของการค้นหาที่เป็นหน้าเว็บไซต์ของเรา

         2.Be found –when customer is reading คือการถูกค้นหา การถูกค้นหา มี 2 ส่วน ที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่ามีตัวตน และผู้บริโภคจะพบเรา คือ Google ad words และ natural result (ผลเสิร์จโดยปกติ)

         3.Be reached Show where you are คือ การปรากฏตัวบนแผนที่ ซึ่งแผนที่นี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคจะค้นหาสถานที่ต่างๆ จากแผนที่ออนไลน์  แผนที่ออนไลน์เดี๋ยวนี้มี Google map street view ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสถานที่เสมือนจริงได้เลย

       4. Google Plus คือ social network หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ รูปแบบใหม่ซึ่งเป็นของ Google ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งของ Facebook
       5. Google Hangout คือ การสนทนาเป็นกลุ่ม คือเราสามารถเผยแพร่ภาพ Hangouts แบบ Public สดๆให้คนทั่วโลกได้เห็น และสามารถบันทึกภาพได้เก็บไว้ใน youtube ได้
       6.    Digital Marketing คือ การตลาดแบบดิจิตอล อาจเป็นสื่อ หรือเว็บไซต์ นำมาประยุกต์ใช้ทางการตลาด

       7.    URL หมายถึง Uniform Resource Locator หมายถึง ตัวบ่งบอกข้อมูล หรือ ที่อยู่ (Address) ของไฟล์หรือเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต

       8.    First Moment of Truth คือ เมื่อเข้าไปในสโตร์ แล้วสามารถเห็นสินค้าทันที

       9.  Second Moment of Truth คือ การที่เราใช้สินค้า แล้วรู้สึกว่าสินค้านี้ตอบโจทย์ ตอบความคาดหวังต่างๆ

     10. Social Networkหมายถึง ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์  ปัจจุบัน การสื่อสารแบบนี้ จะทำผ่านทางInternet และโทรศัพท์มือถือเท่านั้น

     11. Stimulus หมายถึง สัญญาณหรือการเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลต่อกิจกรรมของสิ่งมีชีวิต

     12. Information Age หมายถึง  เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น โดยเฉพาะด้านธุรกิจ

     13. Online Marketing หมายถึง การตลาดที่มีการนำเอาอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกว่า การทำการตลาดแบบออนไลน์

     14. Malware ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำลายหรือสร้างความเสียหายให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย หรือทรัพย์สินและข้อมูลของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์
     15. Go Global (AEC) คือการค้นหาที่สามารถค้นหาได้ทั่วโลกคือ google โดยจะใช้ Google Translate ในการช่วยแปลภาษา
     16. PageRank ค่าลำดับคะแนนที่ Google ประเมินให้กับคุณภาพของเนื้อหา ในหน้าเว็บเพจแต่ละหน้า ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์
     17. Natural Result คือ ผลเสิร์ซโดยปกติ
     18. SoLoMo So คือ Social เครือข่ายสังคม Lo หรือ Local การเข้าถึงธุรกิจหรือบริการสำหรับคนพื้นที่ ท้องถิ่น และ Mo หรือ Mobile เข้าถึงผู้ใช้งานมือถือ
     19. การตลาดออนไลน์ (online-marketing) หรือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketing) หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง
     20. Browser คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวไปในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดกั้นทางด้านพรมแดน นอกจากนี้ Browser ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทผลิตซอฟแวร์ค่ายต่างๆ นับวันจะทวีการแข่งขันกันในการผลิต Browser เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเว็บให้มากที่สุด หน้าตาของ browser แตกต่างกันไปตามแต่การออกแบบการใช้งานของแต่ละค่ายโปรแกรม

ZMOT : ZERO MOMENT OF TRUTH

ZMot-Zero Moment of Truth หมายถึง ช่วงที่ลูกค้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ก่อนหน้าที่จะไปถึงร้านค้า จริง อย่างการ เริ่มค้นหาข้อมูลสินค้าที่ตัวเองสนใจ เช่น การดูรีวิว, เรตติ้ง จากเว็บไซต์ และ Social Media ต่างๆ ดูวิดีโอคลิปจาก YouTube หรือแม้กระทั่งการสแกน Barcodeจากโทรศัพท์แล้วเปิดอ่านรีวิวกันตรงๆ เลย แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิด ZMOT คือ การเติบโตของอินเทอร์เน็ตและเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่ออย่างสมาร์ทโฟนนั่นเอง

SOLOMO : SOCIAL MEDIA LOCATION MOBILE

     Social : สังคมบนโลกออนไลน์ที่วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค
     Location : สถานที่ ยกตัวอย่าง Google Map  ที่ทำให้เรามีตัวตนในแผนที่ เพราะปัจจุบันนี้ โลกออนไลน์จะใช้ผ่านทาง Google เข้ามามีอิทธิพลในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก
     Mobile : โทรศัพท์หรือเครื่องติดต่อสื่อสารที่เราใช้ติดต่อสื่อสารกันแต่ปัจจุบันมันไม่ได้สื่อสารเพียงแค่การคุย รวมไปถึงการใช้อินเตอร์เน็ต ถือเป็นเครื่องพกพาที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่

     สังเกตได้ว่า ในตอนนี้ยอดการมองป้ายโฆษณาน้อยลง แน่นอนว่ามันอาจจะวัดค่า แต่ถ้าหากลองนั่งนับดีๆ เชื่อค่าคงลดลงจากเดิม โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้าจะเห็นว่าทุกคนใช้เวลาคร่ำเคร่งกับหน้าจอสมาร์ทโฟนของตัวเองกันหมด ประเด็นคือตรงนี้แหละ ยิ่งทุกคนใช้เวลากับสมาร์ทโฟนของตัวเองมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นโอกาสทองที่นักการตลาดที่มองเห็นช่องทางนี้ หาโปรโมชันมากมายต่างๆ ยัดลงในคอนเท็นต์ที่รองรับสมาร์ทโฟนให้หมด เพราะมันน่าจะวิ่งปรากฏส่งข้อความสู่สายตาของผู้บริโภคได้ดีกว่าป้ายโฆษณาแล้ว ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น Social Media อย่าง Facebook และTwitter 

ให้ น.ศ. ฟังบรรยายเรื่อง "การทำธุรกิจและการตลาดในยุคดิจิทัล 3.0" แล้วปฏิบัติดังนี้

1.สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการรับฟัง ลงใน Web Blog ของ น.ศ.
ตอบ 
      Social media
      Social Media แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
      1. Owned media เป็นสื่อเว็บไซต์ที่เราเป็นเจ้าของเอง
      2. Paid media สื่อที่เราต้องจ่ายเงินซื้อประเภท Branner, Sponser ship
      3. Earned Media ลูกค้าเป็นเจ้าของ โดยมีการพูดถึงธุรกิจกับลูกค้าด้วยกัน
      4. Social Media เจ้าของธุรกิจติดต่อกับลูกค้าโดยตรง เสนอข้อดีของธุรกิจให้กับผู้บริโภค
      การใช้ Co-creation ใน Social Media ให้ได้ประโยชน์ โดยการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการ ผ่านสื่อ Social ต่างๆ

2.หาคำศัพท์ที่ได้จากการรับฟังพร้อมหาความหมาย เพื่ออธิบายคำศัพท์ดังกล่าว อย่างน้อย 20 คำ แล้วสรุปใน Web Bblog
ตอบ
      1. PAID Media คือ สื่อที่คนอื่นสร้างให้เรา โดยจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อ
      2. Awareness คือ การทำให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า หรือบริการ 
      3. Product Marketing คือ การวางแผนทางการตลาด
      4. Social media คือ การสร้างสังคมเพื่อเข้าหาลูกค้า
      5. Commitment คือ การที่ถูกใจหรือชอบสินค้านั้นแล้วก็บอกต่อคนอื่น 
      6. Involvement คือ การให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับธุรกิจ
      7. Publisher คือ การกระจายข่าวอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
      8. EARNED Media คือ สื่อที่ลูกค้า ผู้บริโภคเป็นเจ้าของ
      9. Chang of Marketing คือ การเปลี่ยนแปลงของตลาด
    10. Virus Marketing คือ การตลาดแบบไวรัส
    11. Concrete คือ การมีส่วนช่วยในการพัฒนา 
    12. Buzz Marketing คือ การตลาดแบบรังผึ้งแตก
    13. Share คือ การแบ่งปัน หรือบอกต่อข้อมูลของสินค้าหรือบริการ
    14. Marketing tip คือ เคล็ดลับทางการตลาด
    15. Referral Marketing คือ การตลาดแบบแนะนำบอกต่อ
    16. Information คือ เป็นข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล และมีการจัดการให้มีความถูกต้อง เป็นปัจบัน และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที
   17. Mindset คือ กระบวนการทางความคิด
   18. Reviewer คือ การสะท้อนกลับถึงข้อมูลสินค้าและบริการ
   19. OWNED Media คือ สื่อสารที่สามารถสร้างขึ้นเอง
   20. Path way คือ เส้นทางในการดำเนินงา

ให้นักศึกษาวิเคราะห์ประเด็นต่อไปนี้ แล้วแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามจากประเด็นปัญหาต่อไป

1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ตอบ

      1. ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยง ในการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ

      2. ความยากจนยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดยทำให้เกิดความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
      3. นโยบายที่รัฐบาลเข้ามากำหนดมาตรการ เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะเดียวกันมาตรการเรื่องระเบียบที่จะกำหนดขึ้นมาไม่ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยี
     4. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล

2. ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce .นประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจัยใดบ้าง
ตอบ 

     1. รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้
     2. รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
     3. รัฐต้องมีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการใช้ระบบ E-Commerce ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายตามหลักสากลและกฎหมายข้างเคียง

อ้างอิง : http://student.swu.ac.th/ed471010111/internet.html